Foundation สถาบันสถาปนา สร้างจากนิยายดีที่สุดของ ไอแซค อาสิมอฟ ซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขาขึ้นสู่บัลลังก์แห่งโลกนิยายไซไฟในทันทีหลังจากนั้น เรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันสถาปนา ที่ถูกสร้างโดย ฮาริ เซลด้อน เพื่อรวบรวมวิทยาการความรู้และอารยธรรมของมนุษย์มาสะสมไว้แล้วจัดทำเอ็นไซโคลปีเดียกาแล็กติกา รวมถึงลดระยะเวลาของยุคมืดของอารยธรรมมนุษย์หลังจากจักรวรรดิกาแล็กซีล่มสลายลงให้เหลือเวลาเพียงพันปีซึ่งเป็นเวลาที่สั้นที่สุด จากนั้นจึงให้สถาบันสถาปนาสร้างอารยธรรมมนุษย์และจักรวรรดิขึ้นใหม่
โดยเรื่องราว ของจักรวรรดิแห่งอวกาศที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีดาวนครหลวงอยู่ที่ทรานทอร์ ซึ่งปกครองหมู่ดาวต่างๆ มายาวนานโดยราชวงศ์ที่มีองค์จักรพรรดิทำการโคลนนิ่งร่างของตนเองมารุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงยุคสมัยที่จักรวรรดิกำลังเริ่มส่งสัญญาณแห่งการตกต่ำและอาจจะล่มสลาย แต่ก็ไม่มีใครสนใจสัญญาณเหล่านั้นกระทั่ง ดร.ฮาริ เชลด็อน นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างทฤษฎีแห่งการคำนวณที่เรียกว่า “อนาคตประวัติศาสตร์” ซึ่งเขาใช้สูตรทางคณิตศาสตร์และสมการที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อเอามาใช้ทำนายอนาคตของจักรวรรดิอวกาศ แล้วพบว่ามันจะเข้าสู่ช่วงเวลาล่มสลาย แล้วอารยธรรมของมนุษย์จะเข้าสู่ยุคมืดนานกว่าสามหมื่นปี เซลด็อน ต้องการหาทางย่นย่อช่วงเวลามืดมนดังกล่าว และช่วยกอบกู้มวลมนุษย์ทั้งอวกาศเอาไว้ เขาจึงได้วางแผนการยิ่งใหญ่ด้วยการก่อตั้งสถาบันสถาปนา แล้วรวบรวมความรู้ วิชาการ เทคโนโลยี ภาษา วัฒนธรรม เรื่องราวของมนุษยชาติทั้งหมดมาไว้ในสถาบันเพื่อจัดทำเอ็นไซโคลปีเดียกาแลกติกา แล้ววางแผนให้มีดำเนินการต่างๆที่จะนำไปสู่การย่นย่อยุคมืดมิดของมนุษย์ให้เหลือเพียงเหลือแค่ 1,000 ปี แล้วหลังจากนั้น สถาบันสถาปนาจะเป็นเสาหลักในการฟื้นฟูอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นใหม่อีกครั้ง
สรุปแล้วเรื่องของความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิโรมันก็กลายเป็นพลอตหลักของสถาบันสถาปนานั่นเอง เรื่องนี้จึงออกมาในแนว ไซไฟ-สังคม มากกว่าที่จะไปเล่นกับประเด็นทางวิทยาศาสตร์ในแบบฮาร์ดไซไฟจริงจัง แต่มันเป็นการนำแนวคิดเรื่องการปกครอง สังคมศาสตร์ รวมถึงการวิพากษ์การเมืองและประวัติศาสตร์โลกมาตีแผ่มากกว่าจะเล่าเรื่องแนวไซไฟวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วไป ในส่วนของตัวละครที่เป็นหัวใจของเรื่องทั้งหมดอย่าง ฮาริ เซลด้อน ซึ่งได้ จาเรด แฮริส มารับบท ถือว่าทำได้ดีและใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ของเซลด้อนที่ควรจะเป็นมาก ตรงนี้ต้องชื่นชมนักแสดงและทีมแคสติ้ง แถมยังนำเสนอภาพของเซลด้อนในแง่ที่เป็นมนุษย์ มีทั้งด้านดีด้านเสียออกมาให้เห็นชัดขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็สอดคล้องกับในนิยายเองเหมือนกันที่เล่มแรกๆสร้างภาพลักษณ์ให้เซลด้อนเหมือนเทพเจ้า แต่ในเล่มหลังๆอาสิมอฟเริ่มเขียนถึงตัวเซลด้อนในแง่มุมที่เป็นมนุษย์มากขึ้น แล้วซีรีส์ก็เอามาเล่าได้ดีซะด้วย
👉👉 นอกจากนี้สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้ที่นี่
Comments
Post a Comment