Skip to main content

รีวิว หยุดโลกปล้น (Way Down 2021) กิมมิกเจ๋งๆ ภารกิจปล้นสมบัติล้ำค่าด้วยแผนที่แยบยล

WAY DOWN หยุดโลกปล้น   ธอม (Freddie Highmore) หนุ่มอัจฉริยะโดนทาบทามจากเซียนงานศิลปะ วอลเตอร์ (Liam Cunningham) ให้มาร่วมทีมชิงสมบัติโบราณที่จะถูกเก็บไว้ในธนาคารเพียงแค่ 10 วัน ธอมและทีมต้องวางแผนโจรกรรมพร้อมเอาตัวรอดออกจากธนาคารที่ได้ชื่อว่าไม่มีวันถูกปล้น ภายใต้ระยะเวลา 105 นาทีของการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศระหว่างสเปนและฮอลแลนด์ที่ทุกคนจดจ่อกับการแข่งขันจนอาจเปิดช่องให้พวกเขาได้ทำการโจรกรรมที่เป็นไปไม่ได้นี้


เรื่องราว ของทีมโจรกรรมทีมหนึ่งที่มี ‘วอลเตอร์’ เป็นหัวหน้า ที่ต้องการปล้นเหรียญ 3 เหรียญสำคัญของราชวงศ์สเปน ที่เคยจมอยู่ใต้น้ำเมื่อสมัยโบราณ แต่สุดท้ายแล้ว เหรียญทั้งสามก็ต้องกลับไปสู่รัฐบาลสเปน กลายเป็นสมบัติของชาติ วอลเตอร์จึงว่าจ้างให้ ‘ธอม’  หนุ่มอังกฤษจบใหม่ที่มีพรสวรรค์ด้านความอัจฉริยะ มาช่วยร่วมทีมในปฏิบัติการที่ ‘เป็นไปไม่ได้’ ด้วยการบุกเข้าปล้น ‘ธนาคารแห่งชาติสเปน’ ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นธนาคารที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาที่สุดในโลก ที่ขึ้นชื่อว่าไม่มีใครปล้นได้ หรือถ้าปล้นได้ ก็ไม่อาจเอาตัวรอดออกไปได้ แถมชั้นใต้ดินธนาคารที่ยังมีตู้เซฟขนาดยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีเมื่อร้อยกว่าปีก่อน แต่ก็ไม่มีใครที่กล้าจะแหยมเข้ามาปล้นได้ง่าย ๆ เพราะตู้เซฟแห่งนี้ไม่มีพิมพ์เขียว ไม่มีข้อมูล และแทบจะไม่มีใครล่วงรู้กลไกการทำงานเลย ธอมที่ต้องการความท้าทายหลังเรียนจบ จึงต้องเดินทางไปสเปนเพื่อค้นหาว่า ตู้เซฟนี้ทำงานอย่างไร พร้อมกับร่วมทีมโจรกรรมครั้งใหญ่ที่่สุด ซึ่งพวกเขาเลือกที่จะใช้วันและเวลาแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 นัดชิงชนะเลิศระหว่างสเปนและฮอลแลนด์ พวกเขาจึงมีเวลาระหว่างการแข่งขันเพียง 105 นาทีเพื่อโจรกรรมเหรียญที่มีมูลค่าสูงมิอาจประเมินค่าได้ และยังต้องเอาตัวรอดออกมาจากธนาคารและโคตรตู้เซฟให้ได้ด้วย


โดยสรุปต้องบอกเลยว่า Way Down สร้างออกมายังไงก็ยังดูสนุกอยู่ดี แม้ว่าหนังจะเต็มไปด้วยรูโหว่เยอะไปหมด ไม่สมเหตุสมผลก็ผสมอยู่ประปราย และยังเต็มไปด้วยพล็อตเรื่องเชยๆ ที่เหมือนเอาหนังโจรกรรมเรื่องนั้นเรื่องนี้มายำรวมๆ กันไว้ แต่เชื่อเถอะว่าเกือบ 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้คนดูเอาใจลุ้นและเกร็งจิกเบาะโรงหนังได้เหมือนกัน เพราะนี่เป็นภารกิจที่รู้สึกเหมือนจะเป็นการปล้นแบบบ้านๆ แต่ก็ไม่บ้านเสียทีเดียว  หนังมีวิธีการเล่าเรื่องง่ายๆ เป็นลำดับขั้นตอนที่แทบจะไม่ชั้นเชิงใดๆ เลย คนดูก็น่าจะพอเดาทิศทางของหนังได้ออก ถ้าหากว่าเคยมีประสบการณ์การดูหนังแนวๆ นี้มาหลายเรื่อง จังหวะและองค์ประกอบของหนังก็หยิบใช้สูตรสำเร็จทั่วไปมาใช้ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเห็นถึงความแปลกใหม่หรือแตกต่างใดๆ ภารกิจและแนวทางแก้ไขปัญหาแต่ละด่านก็ไม่ได้ซับซ้อนเท่าไหร่ ก็นับว่าเป็นหนังง่ายๆ ที่ใช้คอนเซ็ปต์ไม่ต้องคิดเยอะเป็นแกนหลัก


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ แนะนำหนังดัง หนังฮอลลีวูด ได้ที่นี่


Comments

Popular posts from this blog

Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล

 เรียกได้ว่าเป็นหนังเอนิเมชั่นที่สมจริงอีกเรื่องเลยก็ว่าได้ ในเรื่อง Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล ได้ผู้กำกับอย่าง โรเบิร์ต รอดริเกซ ที่ขนนักแสดงนำอย่าง โรซา ซาลาซาร์ ,คีแอน จอห์นสัน ,คริสตอฟ วอลท์ซ ,เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ,เอ็ด สไครน์ ,อีซา กอนซาเลซ และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้น ซึ่งไซบอร์กและหุ่นยนตร์กลายเป็นเรื่องปกติ เมืองลอยฟ้าทิฟาเรส เก็บงำความลับอันดำมืด มันทิ้งขยะไร้ค่าลงสู่โล่งเบื้องล่าง และที่ลานทิ้งขยะนั้นเองค่ะ Alita: Battle Angel เ รื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 หรือ 300 ปีให้หลังจากสงครามอวกาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ในอนาคตอันไกลโพ้น จะมีไซบอร์กและหุ่นยนตร์ดำเนินชีวิตประจำวันให้เห็นโดยเป็นเรื่องปกติ และมีเมืองลอยฟ้าที่เก็บงำความลับอันดำมืดไว้ และตลอดระยะเวลาจะมีการทิ้งขยะที่ไร้ค่าลงสู่พื้นโล่งเบื้องล่างทับถมกันจนกลายเป็นลานขยะ ณ ที่ลานทิ้งขยะนั้นเอง ศัลยแพทย์ดร.ไดสัน อิโดะได้เดินทางไปที่ลานขยะก็ได้พบกับไซบอร์กสาวที่สมองยังคงทำงานอยู่ไม่เสียหาย จึงได้เก็บเธอมาแล้วช่วยซ่อมร่างของเธอให้ หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาเธอไม่สามาร...

รีวิว Cowboy Bebop (Live-Action) ที่ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานปลายยุค 90s

Cowboy Bebop Netflix ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานในปลายยุค 90s เป็นการยำรวมระหว่าง หนังคาวบอย กังฟูสไตล์บรู๊ซลี ยานอวกาศ เพลงแจ้ส คอบรา ผสมผสานบรรยากาศของหนังให้อารมณ์ทำภารกิจเป็นตอนๆบวกการไล่ล่าแบบหนังตำรวจและหนังมาเฟียเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยเพลงแจ๊สคลอประกอบไปตลอดเรื่อง  เรื่องราวของเหล่า “คาวบอยอวกาศ” หรือ นักล่าค่าหัวในโลกยุคอนาคตที่การเดินทางระหว่างดวงดาวเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สังคมก็ยังเต็มไปด้วยอาชญากรรมมากมายที่หน่วยงานและตำรวจไม่สามารถปราบได้ จึงทำให้มีอาชีพนักล่าค่าหัวเพื่อตามจับเหล่าอาชญากรระหว่างดวงดาวเกิดขึ้น ซึ่งสมาชิกของยาน “Bebop” ที่ประกอบด้วย สไปค์ สปีเกล และ เจ็ต แบล็ก ในฐานะคาวบอยอวกาศชื่อดังก็ต้องรับภารกิจล่าค่าหัวตามจับเหล่าอาชญากร ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เจอกับ เฟย์ วาเลนไทน์ หญิงนักล่าค่าหัวปริศนาที่เข้ามาร่วมกลุ่ม ตามด้วย เอ็ด แฮกเกอร์หญิงอัจฉริยะ ซึ่งการรวมตัวกันของพวกเขาจะทำให้ทีมคาวบอยบีบ็อบออกป่วนไปทั่วระบบสุริยะ  เรื่องราวอีกด้านหนึ่งยังโฟกัสไปที่อดีตของสไปค์ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนเขาเป็นระยะ ในฐานะอดีตนักฆ่าแถวหน้าขององค์กรอาชญากรรม “เรดดรากอน” แ...

รีวิว The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก

The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก  เป็นเรื่อง2คู่ซี้สาวออเดรย์ (มิล่า คูนิส) และ มอร์แกน (เคท แมคคินนอน) สองสาวขโมยทัมบ์ไดรฟ์ที่บรรจุความลับสุดยอดที่ได้มาจากศพของมือสังหาร และโดนตามล่าโดนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด  และกระชากโฉมหน้าองค์กรลับแห่งนี้  และบทสรุป ที่คาดไม่ถึง เรื่องราวหลัง ดรูว์ (จัสติน เธอโร) กิ๊กเก่ามาโดนยิงต่อหน้าต่อตา พร้อมฝากฝังภารกิจสุดห้าว จน ออดรีย์(มิลา คูนิส) สาวช้ำรักพร้อม มอร์แกน(เคต แมคคินนอน) เพื่อนซี้ที่ปากแทบไม่เคยหุบ ต้องกระเตงกันไปไกลถึงยุโรป เพื่อส่งมอบแฟลชไดร์ฟที่บรรจุข้อมูลลับให้ถึงมือที่ปลอดภัยก่อนจะเกิดหายนะโลก แล้วชีวิตสองสาววัย 30 ก็ต้องหนีการตามล่าทั้ง เซบาสเตียน (แซม โฮแกน) สายลับอังกฤษสุดหล่อที่ต้องทนร่วมงานกับ ดัฟเฟอร์ (ฮาซาน มินฮาจ)คู่หูที่เอาแต่อวดฉลาด นาจยา (อีวานนา ซาคาห์โน)นักฆ่าสาวหุ่นนางแบบจากองค์กรก่อการร้าย ที่จะทำให้การเปิดซิงทริปยุโรปของ ออดรีย์ กับ มอร์แกน เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว โดยรวมเปิดเรื่องมาอย่างกับก็อปฉากจากหนังแอ็คชั่นอย่าง เจสัน บอร์น แล้ว หน...