Skip to main content

แนะนำภาพยนต์ Jolt สวยแรงสูง (2021) นักฆ่าสาวสุดระห่ำ จังหวะโบ๊ะบ๊ะ

Jolt  (สวยแรงสูง) กลิ่นอายความเป็นหนังนักฆ่าสาวสุดระห่ำลอยโชยมาแต่ไกลทีเดียว แต่เมื่อได้ลองมาสัมผัสและพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้ว ก็พบว่านี่คือหนังที่จังหวะโบ๊ะบ๊ะ ดูเอามันส์ ด้วยไอเดียที่น่าสนใจ แม้จะยังไม่ได้กลมกล่อมรสชาติอร่อยขนาดนั้นก็ตาม


เรื่องราวของ ลินดี้ หญิงสาวที่เกิดและเติบโตมาด้วยความบกพร่องทางอารมณ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เธอกลายเป็นสาวอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมรุนแรงแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ต้องใช้เสื้อกั๊กประจุไฟฟ้าช่วยยับยั้งอาการนี้ของเธอให้ทุเลาลง เพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บป่วยล้มตายเพราะเธอ แต่กระทั้งเมื่อเธอพบว่าคนรักของตัวเองถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา เธอจึงต้องออกโรงสืบเสาะหาต้นหาและใช้พลังความโกรธเดือดดาลของเธอมาเป็นเครื่องมือล้างแค้น


เราได้เห็น "เคต แบคคินเซล" กลับมารับบทสวยสังหารอะไรแบบนี้อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่บทที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าประทังความคิดถึงคาแรกเตอร์แบบนี้ของเธอได้อยู่เหมือนกัน นับตั้งแต่เรื่อง Underworld ที่สวยเท่ชะมัด แต่มาในเรื่องนี้ตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า เป็นหนังที่สอดแทรกจังหวะโบ๊ะบ๊ะที่อย่าถามหาสาระอะไรมาก อยากจะใส่อะไรก็ใส่ อยากจะโยนอะไรมาก็โยน กลายเป็นหนังประเภทผัดตามใจ ไม่ต้องแคร์แกนเรื่องอันน้อยนิดอะไรมาก


โดยรวม Jolt สวยแรงสูง น่าจะเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ดูฆ่าเวลาได้ เพราะในท้ายที่สุดเมื่อหนังจบลงแล้ว ก็แทบจะไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ แบบว่าดูผ่านแล้วก็ผ่านเลย เนื่องจากโครงเรื่องและบทหนังค่อนข้างอ่อนเป็นอย่างมาก ประเด็นและจุดหักมุมต่างๆ ซ้ำซากและไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์อะไร แนวทางการพัฒนาตัวละครและคาแรกเตอร์ต่างๆ ก็ยังไม่ดีพอ แม้แต่ตัวนางเอกของเรื่องก็ยังถ่ายทอดออกมาได้แบบแปลกๆ ชอบกล




สรุปถึงแม้ว่าบทหนังจะค่อนข้างเห่ยและเชยอยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องขอบคุณพลังจากทีมนักแสดงในหนังเรื่องนี้ ที่ต้องร้องโอ้โห้ ออกมาเบาๆ เพราะเป็นหนังแอคชั่นที่พยายามจะทำออกมาให้ดูเฟียรซ์และมาพร้อมกับดาราตัวเป้งๆ ไม่ว่าจะเป็น "สแตนลีย์ ทุชชี่", "ไจ คอร์ตนีย์", "บ็อบบี้ แคนนาวาลล์" หรือ "ซูซาน ซาแรนดอน" ที่ยังแอบรู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันว่าไปหว่านล้อมมาเล่นได้ยังไง


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ หนังซุปเปอร์ฮีโร่ ได้ที่นี่

Comments

Popular posts from this blog

Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล

 เรียกได้ว่าเป็นหนังเอนิเมชั่นที่สมจริงอีกเรื่องเลยก็ว่าได้ ในเรื่อง Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล ได้ผู้กำกับอย่าง โรเบิร์ต รอดริเกซ ที่ขนนักแสดงนำอย่าง โรซา ซาลาซาร์ ,คีแอน จอห์นสัน ,คริสตอฟ วอลท์ซ ,เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ,เอ็ด สไครน์ ,อีซา กอนซาเลซ และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้น ซึ่งไซบอร์กและหุ่นยนตร์กลายเป็นเรื่องปกติ เมืองลอยฟ้าทิฟาเรส เก็บงำความลับอันดำมืด มันทิ้งขยะไร้ค่าลงสู่โล่งเบื้องล่าง และที่ลานทิ้งขยะนั้นเองค่ะ Alita: Battle Angel เ รื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 หรือ 300 ปีให้หลังจากสงครามอวกาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ในอนาคตอันไกลโพ้น จะมีไซบอร์กและหุ่นยนตร์ดำเนินชีวิตประจำวันให้เห็นโดยเป็นเรื่องปกติ และมีเมืองลอยฟ้าที่เก็บงำความลับอันดำมืดไว้ และตลอดระยะเวลาจะมีการทิ้งขยะที่ไร้ค่าลงสู่พื้นโล่งเบื้องล่างทับถมกันจนกลายเป็นลานขยะ ณ ที่ลานทิ้งขยะนั้นเอง ศัลยแพทย์ดร.ไดสัน อิโดะได้เดินทางไปที่ลานขยะก็ได้พบกับไซบอร์กสาวที่สมองยังคงทำงานอยู่ไม่เสียหาย จึงได้เก็บเธอมาแล้วช่วยซ่อมร่างของเธอให้ หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาเธอไม่สามาร...

รีวิว Cowboy Bebop (Live-Action) ที่ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานปลายยุค 90s

Cowboy Bebop Netflix ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานในปลายยุค 90s เป็นการยำรวมระหว่าง หนังคาวบอย กังฟูสไตล์บรู๊ซลี ยานอวกาศ เพลงแจ้ส คอบรา ผสมผสานบรรยากาศของหนังให้อารมณ์ทำภารกิจเป็นตอนๆบวกการไล่ล่าแบบหนังตำรวจและหนังมาเฟียเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยเพลงแจ๊สคลอประกอบไปตลอดเรื่อง  เรื่องราวของเหล่า “คาวบอยอวกาศ” หรือ นักล่าค่าหัวในโลกยุคอนาคตที่การเดินทางระหว่างดวงดาวเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สังคมก็ยังเต็มไปด้วยอาชญากรรมมากมายที่หน่วยงานและตำรวจไม่สามารถปราบได้ จึงทำให้มีอาชีพนักล่าค่าหัวเพื่อตามจับเหล่าอาชญากรระหว่างดวงดาวเกิดขึ้น ซึ่งสมาชิกของยาน “Bebop” ที่ประกอบด้วย สไปค์ สปีเกล และ เจ็ต แบล็ก ในฐานะคาวบอยอวกาศชื่อดังก็ต้องรับภารกิจล่าค่าหัวตามจับเหล่าอาชญากร ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เจอกับ เฟย์ วาเลนไทน์ หญิงนักล่าค่าหัวปริศนาที่เข้ามาร่วมกลุ่ม ตามด้วย เอ็ด แฮกเกอร์หญิงอัจฉริยะ ซึ่งการรวมตัวกันของพวกเขาจะทำให้ทีมคาวบอยบีบ็อบออกป่วนไปทั่วระบบสุริยะ  เรื่องราวอีกด้านหนึ่งยังโฟกัสไปที่อดีตของสไปค์ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนเขาเป็นระยะ ในฐานะอดีตนักฆ่าแถวหน้าขององค์กรอาชญากรรม “เรดดรากอน” แ...

รีวิว The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก

The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก  เป็นเรื่อง2คู่ซี้สาวออเดรย์ (มิล่า คูนิส) และ มอร์แกน (เคท แมคคินนอน) สองสาวขโมยทัมบ์ไดรฟ์ที่บรรจุความลับสุดยอดที่ได้มาจากศพของมือสังหาร และโดนตามล่าโดนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด  และกระชากโฉมหน้าองค์กรลับแห่งนี้  และบทสรุป ที่คาดไม่ถึง เรื่องราวหลัง ดรูว์ (จัสติน เธอโร) กิ๊กเก่ามาโดนยิงต่อหน้าต่อตา พร้อมฝากฝังภารกิจสุดห้าว จน ออดรีย์(มิลา คูนิส) สาวช้ำรักพร้อม มอร์แกน(เคต แมคคินนอน) เพื่อนซี้ที่ปากแทบไม่เคยหุบ ต้องกระเตงกันไปไกลถึงยุโรป เพื่อส่งมอบแฟลชไดร์ฟที่บรรจุข้อมูลลับให้ถึงมือที่ปลอดภัยก่อนจะเกิดหายนะโลก แล้วชีวิตสองสาววัย 30 ก็ต้องหนีการตามล่าทั้ง เซบาสเตียน (แซม โฮแกน) สายลับอังกฤษสุดหล่อที่ต้องทนร่วมงานกับ ดัฟเฟอร์ (ฮาซาน มินฮาจ)คู่หูที่เอาแต่อวดฉลาด นาจยา (อีวานนา ซาคาห์โน)นักฆ่าสาวหุ่นนางแบบจากองค์กรก่อการร้าย ที่จะทำให้การเปิดซิงทริปยุโรปของ ออดรีย์ กับ มอร์แกน เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว โดยรวมเปิดเรื่องมาอย่างกับก็อปฉากจากหนังแอ็คชั่นอย่าง เจสัน บอร์น แล้ว หน...