The Matrix Resurrections เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์ ภาพยนตร์ลำดับที่สี่จากแฟรนไชส์สุดล้ำที่พลิกโฉมภาพยนตร์ประเภทเดียวกัน จากผู้กำกับฯ วิสัยทัศน์กว้างไกล ลาน่า วาชอว์สกี้ วันนี้ผลงานที่ทุกคนรอคอย สานต่อความสำเร็จที่สามภาคแรกทำไว้ตั้งแต่ปี 1999 เริ่มจาก The Matrix ตามมาด้วย The Matrix Reloaded และ The Matrix Revolutions ที่ปล่อยฉายในปีเดียวกันนั่นก็คือ 2003 กวาดรายได้รวมทั่วโลกกว่า 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หนังได้ตัวนักแสดงเดิม อาทิ คีอานู รีฟส์ และ แคร์รี่-แอนน์ มอส กลับมารับบทเด่นบทดังของพวกเขาอย่าง นีโอ และ ทรินิตี้ อีกครั้ง
เรื่องราวภาคนี้เนื้อเรื่องยังวนเวียนอยู่กับการปลดปล่อยตัวนีโอออกจาก เดอะ เมทริกซ์ โดยมีเส้นเรื่องหลักคร่าวๆ แบบไม่สปอยล์อะไรมากก็คือ มีกลุ่มผู้ปลดปล่อยใหม่พยายามปลุกให้นีโอกลับมาอีกครั้ง ตามมาด้วยการช่วยทรินิตี้เพิ่มอีกคน ซึ่งทั้งเรื่องก็มีแค่นี้จริงๆ ดังนั้นตัวเรื่องที่เหลือก็เลยกลายเป็นความพยายามรื้อฟื้นเรื่องราวฉากเก่าๆ มาใส่ในเส้นเรื่องใหม่ของภาคนี้ โดยฉากเก่าที่ว่านี่คือแฟลชแบ็คสั้นๆ ที่ขยันปล่อยมาเรื่อยๆ ตั้งแต่นีโอยังงงๆ ฉากเลือกยา ฉากคุยกับมอร์เฟียซ ฉากฝึกวิชา และยิบย่อยอีกมากมาย จนแทบทั้งเรื่องเต็มไปด้วยแฟลชแบ็คที่กินเวลาไปไม่น้อย โดยเทียบเป็นลักษณะนีโอมองเห็นเดจาวูของตัวเอง ซึ่งแรกๆ แฟนเมทริกซ์คงรู้สึกดีที่ภาคใหม่ยังพยายามดึงเอาฉากเก่าๆ มาร่วมด้วย แต่พอนานไปกลับกลายเป็นว่าชักเยอะเกินไป จนเริ่มรู้สึกรำคาญว่าจะพยายามใส่อะไรมาขนาดนี้ ทำให้เรื่องที่ว่าเหมือนจะไปทิศทางใหม่ได้ในตอนแรก กลับต้องมาติดหล่มการย้อนแฟลชแบ็คของเก่าแวบๆ เทียบกับเรื่องราวในปัจจุบันอยู่เรื่อยๆ
สรุปแล้ว ‘The Matrix Resurrections’ ยังไม่อาจเป็นภาคต่อของ ‘The Matrix’ ที่น่าพอใจนัก ทั้งวัดจากการสานต่อตำนานจากไตรภาคแรก หรือการรีบูตเพื่อเริ่มเรื่องใหม่ ด้วยท่าทีการเล่าเรื่องที่ยังไม่เด็ดขาดว่าจะหักล้างตรรกะของหนังภาคเก่าหรือสานต่อโลกของหนังมาเล่าต่อแล้วแนะนำตัวละครใหม่ มีเพียงฉากแอ็กชันแปลกตา งานออกแบบเสื้อผ้าและเรื่องราวของนีโอกับทรินิตีที่ยังพอรั้งไม่ให้คนดูหลุดสู่เดอะแมทริกซ์แบบไทย ๆ ที่เรียกว่า “ไปเฝ้าพระอินทร์”
👉👉นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ หนังใหม่ชนโรง ได้ที่นี่
Comments
Post a Comment