Skip to main content

รีวิว Cobra Kai ss4 ซีรีย์ภาคต่อจากหนัง The Karate Kid การกลับมาของสำนักคอบราไค

Cobra Kai ss4 คอบราไค ซีซัน 4 เรื่องราวภาคต่อจากหนังไตรภาค Karate Kid ใน 3 ภาคแรก โดยภาคนี้จะเป็นบทสรุปการแข่งขันออลวัลเลย์ เพื่อชิงชัยว่าสำนักไหนกันระหว่าง มิยากิโด อีเกิลแฟง และ คอบราไค ฝ่ายไหนคือสำนักอันดับหนึ่ง พร้อมกับการเดิมพันที่ฝ่ายแพ้ต้องยุติสำนัก แต่เรื่องราวมันก็ไม่ง่ายแบบนั้นเพราะมีตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมากขึ้นในซีซันนี้ แล้วยังเป็นการสำรวจจักรวาล Karate Kid ที่ลึกลงไปอีก



เรื่องราวต่อเนื่องจากซีซันที่สามที่ความขัดแย้งระหว่างทั้งสามสำนักกำลังเข้มข้นถึงขีดสุด และการแตกหักกันระหว่าง จอห์นนี่ กับ ครีส ที่ทำให้จอห์นนี่ตัดสินใจแยกสำนักออกมาก่อตั้ “อีเกิลแฟง” ซึ่งเป็นเสมือนแนวทางคาราเต้แบบคอบราไคที่ลดความโหดเหี้ยมลง หันมาใช้วิธีการต่อสู้ที่ขาวสะอาด มีน้ำใจนักกีฬา แสดงความนับถือคู่ต่อสู้ เพียงแต่ก็ยังเน้นแนวทางการใช้คาราเต้สายรุก ก้าวร้าว เป็นจุดแข็ง โดยบทสรุปของซีซันสามนั้น ครีส ใช้กลลวงเพื่อดึงตัวร็อบบี้ ลูกชายคนเดียวของจอห์นนี่ให้หันมาอยู่ฝ่ายเดียวกับตน และยังฮุบสำนักคอบราไคไปครองได้ แต่แล้วจอห์นนี่ก็หันไปสงบศึกกับ แดเนียลชั่วคราว


ในขณะที่แดเนียลก็มองว่าเขาไม่อาจปล่อยให้คอบราไคลอยนวลและทำให้คาราเต้ในวิถีทางของอาจารย์มิยากิผู้ล่วงลับเสื่อมเสีย นั่นทำให้ศัตรูคู่แค้นทั้งสองคนยอมเลิกความบาดหมางต่อกันแล้วหันมาจับมือเป็นพันธมิตร ให้เด็กๆทั้งสองสำนักจากมิยากิโดและอีเกิลแฟงได้ฝึกวิชาร่วมกันเพื่อเตรียมเข้าแข่งขันในศึกคาราเต้ออลวัลเลย์ ซึ่งจะต้องเผชิญหน้ากับทีมของคอบบราไค โดยมีเดิมพันว่า หากฝ่ายใดแพ้ ฝ่ายนั้นต้องยุติการสอน ซีซันนี้จึงเป็นเสมือนบทสรุปในครึ่งที่สองของเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสามสำนัก




บทสรุปเรื่องนี้สามารถรักษาธีมบางอย่างจากภาพยนตร์ไตรภาคชุดเดิมไว้ได้ นั่นคือ “ความเป็นหนังเด็ก” หรือเรียกง่ายๆ ว่าหนังแนว Coming of Age ที่เกี่ยวกับการเติบโตและก้าวผ่านวัยเด็กสู่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ของตัวเอก ซึ่งก็คือ แดเนียล ลารุสโซ่ โดยมีตัวละคร “มิยากิ” ที่มาพร้อมกับวิชาคาราเต้และปรัชญาตะวันออกมากมาย โดยเฉพาะแนวทางเซน และหยินหยาง ในการกล่อมเกลาจิตใจและร่างกายให้แดเนียลซึ่งเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกกลั่นแกล้งสามารถผ่านช่วงเวลายากลำบากจนกระทั่งกลายเป็นนักคาราเต้วัยเยาว์ที่คว้าแชมป์ออลวัลเลย์ได้ถึงสองสมัย




โดยรวมด้านฉากแอ็กชั่น มีพัฒนาการขึ้นจากสามซีซันในบางจุด โดยเฉพาะเรื่องการออกแบบ “กระบวนท่า” ที่ใช้ในการต่อสู้จริงๆ มีบางท่าที่ดูแล้วรู้สึกว่าสามารถใช้งานได้จริง ไม่ได้ดูโอเวอร์หรือเป็นท่าแอ็กติ้งมากเกินไปแบบบางท่าในซีซันก่อนๆ แต่ก็ยังมีท่าต่อสู้อีกหลายท่าในเรื่องนี้ที่เรารู้สึกว่าดูเหมือนการแสดงโชว์กายกรรมเยอะไปนิด


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์จีน ได้ที่นี่

Comments

Popular posts from this blog

รีวิว The Witch : Part 1 The Subversion ภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีเลือดสาด

The Witch : Part 1 The Subversion เป็นภาพยนตร์แอคชันแฟนตาซีที่ผสมปริศนาระทึกขวัญ ผลงานผู้กำกับ พัคฮุนจอง เจ้าของผลงานเด่น V.I.P. (2017) New World (2013) และงานเขียนบท I Saw the Devil (2010) The Unjust (2010) เป็นงานที่ส่งให้นักแสดงนำหญิง คิมดามี ได้ฉายออร่าฝีมือจนกวาดรางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ไปมากมายจากหลายเวที เรื่องราวที่มีทั้งความไซไฟและทริลเลอร์ระดับเลือดสาด ก็คงต้องบอกว่า ใครไม่ชอบเลือดก็อาจจะลำบากในการดูนิดนึง แต่สำหรับใครที่อยากชมผลงานของน้องหมวยคนที่แสดงเป็นอีซอ ก็คงจะไม่ผิดหวัง เพราะน้องเล่นเป็นนางเอก เรื่องราวค่ำคืนหนึ่งในพื้นที่ชนบทห่างไกล ณ อาคารปฏิบัติการลับแห่งหนึ่ง เด็กหญิงวัย 8 ขวบคนหนึ่งหลบหนีออกไปจากที่กักกัน  ทิ้งไว้เพียงร่องรอยการต่อสู้รุนแรงเลือดสาดกระจายทั่วห้องที่เกิดเหตุ  โดยมีนายชเว (รับบทโดย พัคฮีซุน) นำทีมชายฉกรรจ์ผู้ดูแลกลุ่มหนึ่ง ติดตามไปค้นหาในป่ามืด แต่ก็ล้มเหลว  ได้ตัวกลับมาเพียงเด็กชายวัยเดียวกันอีกคนที่พยายามตามเธอไป สร้างความขุ่นเคืองให้นายหญิง ดร.แพค (รับบทโดย โจมินซู) ที่ต้องรุดมาตรวจเหตุกลางดึก พร้อมรู้สึกผิดหวังที่ลูกน้องซื่อบื้...

รีวิว A Writer’s Odyssey จอมยุทธ์ทะลุภพ (2021) ความหวังและความศรัทธา

“A WRITER’S ODYSSEY” คือภาพยนตร์เกี่ยวกับความหวังและความศรัทธา ถ่ายทอดเรื่องราวในโลกแห่งนิยายแฟนตาซีที่ตัวเอกซึ่งเป็นนักรบต้องออกเดินทางเพื่อต่อสู้พิชิตระบอบการปกครองที่โหดร้าย จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในนิยายก็เริ่มกลับกลายเป็นความจริง อีกหนึ่งความพิเศษที่ถือเป็นจุดเด่นของภาพยนตร์คืองานซีจีและสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่เนรมิตรฉากการต่อสู้ออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยผลงานการสร้างของ United Entertainment Partners ผู้สร้างหนังเรื่อง The Wandering Earth ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ทำเงินถล่มทลายในจีนมาแล้ว นอกจากนี้หนังยังถ่ายทำด้วยกล้องไอแม็กซ์ และมีฉากจอกว้างแบบไอแม็กซ์มากกว่าหนึ่งชั่วโมง เรื่องราวเมื่อนักเขียนหนุ่ม ลู่ขงเวิ่น (ตงจื่อเจี้ยน) ได้ลงมือเขียนนิยายแฟนตาซีเรื่องหนึ่ง แต่แล้วด้วยความอัศจรรย์บางอย่าง มันได้เปลี่ยนโลกความจริงที่เขาอยู่อาศัยให้กลายเป็นโลกแฟนตาซีที่เกิดขึ้นจากจินตนาการผ่านปลายปากกาของตัวเอง และต่อมาลู่ขงเวิ่นก็ได้พบชายอีกคน (เหลยเจียอิน) ซึ่งได้ตกลงทำภารกิจเพื่อมาสังหารเขาตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง (หยางมี่) ที่ดูเหมือนจะกุมความลับสำคัญของโลกแห่งเวทย์มนต์นี้ไว้ไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ ...

รีวิว Sisyphus (รหัสลับข้ามเวลา) เนื้อเรื่องอย่างดี แต่ CG ไม่ได้มากค่ะ

แนะนำซีรีย์แอคชั่นพล็อตแนวไซไฟที่ดูใหญ่โต เมื่ออนาคตล่มสลาย และในอนาคตมีเครื่องย้อนเวลากลับมายังอดีตได้ โดยนักแสดงนำอย่าง  ฮันแทซุล (Cho Seung Woo) และ คังซอแฮ  (Park Shin Hye)  บทซีรีย์เรื่องนี้กำหนดให้พระเอกเป็นวิศวกรอัจฉริยะ เขากำลังคิดค้นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอย่างหนึ่งอยู่ ซึ่งมันได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้พบกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่มาจากโลกอนาคต โดยเรื่องราว พระเอกฮัลแทซูล เจ้าของบริษัทควอนตัมแอนด์ไทม์ที่ใหญ่สุดในเกาหลีที่สูญเสียพี่ชายไปในอดีต จากการไม่เชื่อว่าสิ่งที่พี่ชายเล่ามาเรื่องคนแปลกๆ ในปะปนอยู่ในสังคมและกำลังตามล่าเขากับพี่ชายอยู่ จนเป็นบาดแผลในใจทำให้เขาทำตัวเละเทะไม่สมกับตำแหน่งประธานบริษัทตลอดมา จนวันหนึ่งเขากลับได้พบเบาะแสหลักฐานว่าจริงๆ แล้วพี่ชายของเขาอาจจะยังอยู่ พร้อมกับมีปริศนาและเรื่องแปลกๆ หลายอย่างที่เกิดมาพร้อมกัน ทั้งหน่วยงานลึกลับของรัฐบาลที่ตามจับตัวเขา กับกลุ่มปริศนาที่ติดต่อกับพี่ขายที่หายไป หญิงสาวลึกลับที่ปรากฎตัวมาเพื่อเขาจะการตามล่า โดยที่มีรูปถ่ายปริศนาว่าเขากับเธอแต่งงานโดยไม่ได้รู้จักกันมาก่อน สำหรับซีรี่ย์เรื่องนี้คิวบู๊ของนางเอกผู้กำ...