Skip to main content

รีวิว DOTA: Dragon’s Blood: Book 2 ตำนานเลือดมังกร

DOTA: Dragon’s Blood: Book 2  อนิเมชั่นซีรีย์ดัดแปลงจากวิดีโอเกมชื่อเดียวกันของ VALVE ร่วมทุนสร้างกับ Netflix Animation และ Studio Mir  เรื่องราวดาร์กแฟนตาซีที่สานต่อความเข้มข้นและจุดเปลี่ยนของชะตากรรมแห่งโลก ชะตากรรมที่ทุกตัวละครต้องเผชิญหลังจบซีซั่น 1 


เรื่องราวหลังจากสงครามที่ป่าไนท์ซิลเวอร์ที่ได้ส่งคำเตือนให้ทั้งแผ่นดินรับรู้ถึงความชั่วร้ายของอินโวคเกอร์ เอลฟ์ที่ต้องการจะสังหารเซเลเมเน่ เทพีแห่งจันทรา ทำให้เดเวียน อัศวินมังกร และเจ้าหญิงมิราน่าจำต้องถูกแยกจากกัน ในขณะที่เดเวียนต้องเผชิญหน้ากับคำถามและต้นกำเนิดที่แท้จริงของชนเผ่ามังกรที่ออกไล่ล่าพลังและคำสาปของเขาในดราก้อนโฮลล์ร่วมฟิมริน เด็กสาวเอลฟ์ที่มีอนาคตในกำมือเธอ ในขณะที่เมลิน่า ลูน่า คนชั่วช้าแห่งที่ราบ นักรบผู้ปฏิเสธที่จะสรรเสริญเซเลเมเน่ และมาร์ซี่ สาวรับใช้หญิงใบ้มากฝีมือที่หนีรอดมาได้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ในสงครามครั้งใหม่ที่เลวร้ายกว่าที่เธอรู้จักเพื่อบูชา และมีเพียงศรัทธาและกำลังที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ แต่เมื่อภัยร้ายและแผนการที่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งมนุษย์และเอลฟ์ต่างห้ำหั่นเพื่ออำนาจ และเมื่อลีน่า จอมสังหารพลังเพลิงเข้ามาเป็นตัวแปรครั้งสำคัญของศึกครั้งนี้ จึงถึงคราวที่เลือดมังกรของเดเวียนและพลังที่หลับใหลและซ่อนเร้นจะพลิกชะตากรรมของทั้งโลกได้ แต่มันจะสามารถเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น หรือทำให้มันแย่ลงมากกว่าเดิม




โดยเนื้อเรื่องทิ้งช่วงห่างจากซีซั่นแรกได้ไม่นานและเดินหน้าต่อโดยไม่มาปูเรื่องราวอีกต่อไป เพราะงั้นถ้าใครยังไม่ได้ดูซีซั่นแรก หรือดูแล้วลืมก็คงจะต้องงงแน่ ๆ เพราะมันอัดแน่นข้อมูลเล่าไว้เพียบ ทั้งลอร์ของจักรวาล ทั้งปริศนามากมายของตัวละครที่เราเคยสงสัยหรืออยากเห็น เราก็ได้เห็น อีกทั้งมันยังกล้าที่จะสาดซัดความรุนแรงแบบไม่ยั้งมือ เรียกได้ว่าแม้แต่ตัวเอกก็ยังมีสภาพแทบไม่ต่างอะไรกับตัวประกอบ กับเนื้อเรื่องที่ซีซั่นนี้จะเน้นในเรื่องการเมืองอาณาจักรที่เข้มข้นมาก การเฉลยปมในอดีตของตัวละครหลัก ๆ และสอดแทรกบทบาทของตัวละครใหม่ ๆ 




สรุปเป็นอนิเมชั่นซีรีย์จากเกมดังอีกเรื่องที่อาจจะไม่ได้เป็นที่สนใจระดับถล่มทลาย แต่ก็สามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยความดีของมัน ใครเป็นแฟนเกมหรือแฟนโลกแฟนตาซี คุณจะต้องสนุกและชอบมันอย่างแน่นอน มันได้ขยายการเล่าเรื่องและตัวละครที่น่าสนใจและยกระดับให้มันดีไปหมดทุกด้าน แต่ต้องดูซีซั่นแรกให้จบก่อน ไม่งั้นจะงงมาก แม้งานภาพจะไม่ค่อยโดดเด่นในวงการอนิเมะ มีบางฉากที่ซีจีที่ลอยไปบ้าง แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยแอ็คชั่นสุดตื่นตาและความโหดร้ายแบบ 18+ ที่เด็กควรได้รับคำแนะนำในการรับชม เพราะเลือดหลั่งแทบทุกตอนเลยทีเดียว

👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวซีรี่ย์แนวพีเรียด อิงประวัติศาสตร์ ได้ที่นี่

Comments

Popular posts from this blog

Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล

 เรียกได้ว่าเป็นหนังเอนิเมชั่นที่สมจริงอีกเรื่องเลยก็ว่าได้ ในเรื่อง Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล ได้ผู้กำกับอย่าง โรเบิร์ต รอดริเกซ ที่ขนนักแสดงนำอย่าง โรซา ซาลาซาร์ ,คีแอน จอห์นสัน ,คริสตอฟ วอลท์ซ ,เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ,เอ็ด สไครน์ ,อีซา กอนซาเลซ และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้น ซึ่งไซบอร์กและหุ่นยนตร์กลายเป็นเรื่องปกติ เมืองลอยฟ้าทิฟาเรส เก็บงำความลับอันดำมืด มันทิ้งขยะไร้ค่าลงสู่โล่งเบื้องล่าง และที่ลานทิ้งขยะนั้นเองค่ะ Alita: Battle Angel เ รื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 หรือ 300 ปีให้หลังจากสงครามอวกาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ในอนาคตอันไกลโพ้น จะมีไซบอร์กและหุ่นยนตร์ดำเนินชีวิตประจำวันให้เห็นโดยเป็นเรื่องปกติ และมีเมืองลอยฟ้าที่เก็บงำความลับอันดำมืดไว้ และตลอดระยะเวลาจะมีการทิ้งขยะที่ไร้ค่าลงสู่พื้นโล่งเบื้องล่างทับถมกันจนกลายเป็นลานขยะ ณ ที่ลานทิ้งขยะนั้นเอง ศัลยแพทย์ดร.ไดสัน อิโดะได้เดินทางไปที่ลานขยะก็ได้พบกับไซบอร์กสาวที่สมองยังคงทำงานอยู่ไม่เสียหาย จึงได้เก็บเธอมาแล้วช่วยซ่อมร่างของเธอให้ หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาเธอไม่สามาร...

รีวิว Cowboy Bebop (Live-Action) ที่ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานปลายยุค 90s

Cowboy Bebop Netflix ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานในปลายยุค 90s เป็นการยำรวมระหว่าง หนังคาวบอย กังฟูสไตล์บรู๊ซลี ยานอวกาศ เพลงแจ้ส คอบรา ผสมผสานบรรยากาศของหนังให้อารมณ์ทำภารกิจเป็นตอนๆบวกการไล่ล่าแบบหนังตำรวจและหนังมาเฟียเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยเพลงแจ๊สคลอประกอบไปตลอดเรื่อง  เรื่องราวของเหล่า “คาวบอยอวกาศ” หรือ นักล่าค่าหัวในโลกยุคอนาคตที่การเดินทางระหว่างดวงดาวเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สังคมก็ยังเต็มไปด้วยอาชญากรรมมากมายที่หน่วยงานและตำรวจไม่สามารถปราบได้ จึงทำให้มีอาชีพนักล่าค่าหัวเพื่อตามจับเหล่าอาชญากรระหว่างดวงดาวเกิดขึ้น ซึ่งสมาชิกของยาน “Bebop” ที่ประกอบด้วย สไปค์ สปีเกล และ เจ็ต แบล็ก ในฐานะคาวบอยอวกาศชื่อดังก็ต้องรับภารกิจล่าค่าหัวตามจับเหล่าอาชญากร ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เจอกับ เฟย์ วาเลนไทน์ หญิงนักล่าค่าหัวปริศนาที่เข้ามาร่วมกลุ่ม ตามด้วย เอ็ด แฮกเกอร์หญิงอัจฉริยะ ซึ่งการรวมตัวกันของพวกเขาจะทำให้ทีมคาวบอยบีบ็อบออกป่วนไปทั่วระบบสุริยะ  เรื่องราวอีกด้านหนึ่งยังโฟกัสไปที่อดีตของสไปค์ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนเขาเป็นระยะ ในฐานะอดีตนักฆ่าแถวหน้าขององค์กรอาชญากรรม “เรดดรากอน” แ...

รีวิว The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก

The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก  เป็นเรื่อง2คู่ซี้สาวออเดรย์ (มิล่า คูนิส) และ มอร์แกน (เคท แมคคินนอน) สองสาวขโมยทัมบ์ไดรฟ์ที่บรรจุความลับสุดยอดที่ได้มาจากศพของมือสังหาร และโดนตามล่าโดนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด  และกระชากโฉมหน้าองค์กรลับแห่งนี้  และบทสรุป ที่คาดไม่ถึง เรื่องราวหลัง ดรูว์ (จัสติน เธอโร) กิ๊กเก่ามาโดนยิงต่อหน้าต่อตา พร้อมฝากฝังภารกิจสุดห้าว จน ออดรีย์(มิลา คูนิส) สาวช้ำรักพร้อม มอร์แกน(เคต แมคคินนอน) เพื่อนซี้ที่ปากแทบไม่เคยหุบ ต้องกระเตงกันไปไกลถึงยุโรป เพื่อส่งมอบแฟลชไดร์ฟที่บรรจุข้อมูลลับให้ถึงมือที่ปลอดภัยก่อนจะเกิดหายนะโลก แล้วชีวิตสองสาววัย 30 ก็ต้องหนีการตามล่าทั้ง เซบาสเตียน (แซม โฮแกน) สายลับอังกฤษสุดหล่อที่ต้องทนร่วมงานกับ ดัฟเฟอร์ (ฮาซาน มินฮาจ)คู่หูที่เอาแต่อวดฉลาด นาจยา (อีวานนา ซาคาห์โน)นักฆ่าสาวหุ่นนางแบบจากองค์กรก่อการร้าย ที่จะทำให้การเปิดซิงทริปยุโรปของ ออดรีย์ กับ มอร์แกน เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว โดยรวมเปิดเรื่องมาอย่างกับก็อปฉากจากหนังแอ็คชั่นอย่าง เจสัน บอร์น แล้ว หน...