เรื่องราวของ รอย พัลเวอร์ ซึ่งต้องตกอยู่ในเรื่องราวสุดโหดแบบไม่รู้จบ ทุกเช้าเขาต้องตื่นมาเพื่อโดนนักฆ่ามืออาชีพล่า และฆ่าในหลากหลายวิธี ทั้งโดนมัดระเบิด ตัดหัว โดนรุมยิง หรือโดนดาบแทงตาย โดยที่เขาไม่รู้เหตุผล รอยจึงต้องหาคำตอบนี้ให้ได้ว่าทำไมเขาจึงติดอยู่ในวงจรสุดโหดแบบนี้ รวมทั้งยังต้องหาทางช่วยชีวิตภรรยาเก่า กับลูกชายวัย 11 ปี ไปพร้อมกัน และยังต้องหาคำตอบอีกด้วยว่า เวนเทอร์ นักวิทยาศาสตร์การทหารสุดชั่วร้าย ต้องการอะไรจากสิ่งลึกลับที่เขาเรียกว่า กระสวยโอไซริส และเพื่อการหาคำตอบเรื่องนี้ รอยจึงต้องรีเซ็ตตัวเองในทุกวัน และหาทางเอาตัวรอดจากการโดนล่าที่ไม่มีจุดสิ้นสุด อีกครั้ง.. และอีกครั้ง
ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของหนังเกม ถ้าไม่ใช่หนังที่สร้างมาจากเกม ก็มักจะเป็นหนังที่ว่าด้วยตัวละครที่หลุดเข้าไปในโลกของเกม แล้วต้องเผชิญกับการเล่นเกม ทำเควสต์ ดันเวล ในชีวิตจริงเพื่อเอาชนะอุปสรรคบางอย่าง แต่น่าจะน้อยเรื่องมากครับ ที่จะหยิบเอาระบบของเกม (หรือจะเรียกว่า “วิถีของเกม” ดีนะ) มาคิดต่อให้กลายเป็นภาพยนตร์ จะมีก็แต่ Boss Level ผลงานการกำกับและเขียนบทร่วมของ Joe Carnahan ผู้กำกับจอมแหวกแนว เจ้าของผลงานกำกับภาพยนตร์พล็อตแหวกแนวอย่าง The A-Team (2010) , Narc (2002) , Smokin’ Aces (2006) และ The Grey (2011)
แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้ลึกและแตกฉานกว่าคือ การหยิบเอามุมมองของความเป็นเกม มาปะทะกับความเป็นคนได้อย่างลงตัวมาก ๆ ถ้าดูในหนัง แน่นอนว่า เราจะได้เห็นพระเอกได้เรียนรู้สกิลใหม่ ๆ จำตำแหน่งเควสต์และอุปสรรคเอาไว้ แล้วพอตายก็ค่อยไปดักทางใหม่ แก้ทางเกมไปเรื่อย ๆ ซึ่งมันก็เป็นการเปรียบเทียบให้เรามองเห็นความแตกต่างของตัวละครในเกม ที่มักจะทำอะไรซ้ำ ๆ ตามแต่ที่ถูกโพรแกรมมา แต่ก็ไม่ได้หลุดออกจากสิ่งที่เกิดขึ้น
Comments
Post a Comment