Skip to main content

รีวิวหนัง The Spy Who Never Dies (2022) แอ็คชั่นระทึกขวัญกับสายลับนานาชาติ

The Spy Who Never Dies (2022) หนังแอ็คชั่นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เขียนบทและกำกับโดยคอรีย์ เพียร์สัน เกี่ยวกับสายลับนานาชาติชื่อแบรด (พอล โอไบรอัน) ที่เบื่อหน่ายกับการกอบกู้โลกและกำลังมองหาชีวิตที่มากกว่าเดิม ชีวิต "ปกติ" ชีวิตที่ไม่มีปืน ไม่มีวายร้าย ไม่มีพลูโทเนียมฟื้นคืนชีพ เหตุการณ์บังเอิญ (เช่นเดียวกับที่แบรดขโมยสุนัขหลังการลอบสังหาร) แบรดได้พบกับเด็กสาวที่ดูธรรมดาคนหนึ่งชื่อเวโรนิกา (จอร์เจีย วอลเตอร์ส) สัตวแพทย์ที่ฉลาด น่ารัก เวโรนิกาเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด การยกระดับอะดรีนาลีนและอัตราการเต้นของหัวใจมากเกินไปอาจทำให้เธอเสียชีวิตได้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอแพ้ผึ้ง ดังนั้นสูตรสำหรับหายนะ…น่าจะ


เรื่องราวติดตามแบรดในขณะที่เขาพยายามจะลาออกจากสายลับ ในขณะที่พยายามมีความสัมพันธ์ตามปกติกับเวโรนิกา อย่างไรก็ตาม แบรดไม่สามารถหยุดพักได้ที่เขาต้องการเพื่อดูว่าความรักและชีวิตปกติเหมาะสมกับเขาหรือไม่... เข้าสู่รัสเซียด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ถูกขโมยไปและตัวละครลึกลับที่ชื่อตรีศูลผู้ต้องการแก้แค้น! ซึ่งหมายความว่าแบรดต้องเล่นปาหี่ความสัมพันธ์ของเขากับเวโรนิกา ขณะเดียวกันก็ต้องกอบกู้โลก...อีกครั้ง



The Spy Who Never Dies เริ่มต้นด้วยการจี้กลุ่มย่อยโดยสายลับหญิงที่ชั่วร้ายซึ่งอยู่ที่นั่นเพื่อขโมย "ภาระใหญ่" เป็นคำเสียดสีที่ไม่ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อที่บอกผู้ชมว่าจะคาดหวังอะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้ - การเสียดสีประเภทสายลับที่ทำให้ฉันนึกถึง Spy Hard ของ Leslie Nielsen มี เพียงอารมณ์ขันที่ละเอียดอ่อนกว่ามาก… เอาเวลาส่วนใหญ่  ดังนั้นปรากฎว่า "ภาระใหญ่" คือขีปนาวุธของรัสเซียและหัวขโมย Trident (ไม่ใช่หมากฝรั่ง) เจรจากับหัวหน้าโจรรัสเซียที่เรียกว่า THE Boss เพื่อกลับมาตราบเท่าที่พวกเขาใช้มันเพื่อระเบิดเป้าหมายหลักของ เธอเลือก คุณเห็นไหมว่าเธอมีปัญหากับแบรดเหมือนผู้หญิงหลายคนในภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช่ ปรากฎว่าสายลับอย่างแบรด – ผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างอย่างชัดเจนหลังจากเจมส์ บอนด์ – ผู้ซึ่งคลั่งไคล้และพูดเพ้อเจ้อตลอดชีวิตสายลับ จะทำให้ผู้หญิงบางคนอกหัก อกหักถึงขนาดทำลายโลก! เป็นการสังเกตที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมาจากคนที่มีความรักในแนวเพลงที่ชัดเจน มากพอที่จะไตร่ตรองว่าพฤติกรรมเกลียดผู้หญิงของเจมส์ บอนด์จะส่งผลอย่างไรต่อโลกใบนี้


แม้ว่าThe Spy Who Never Diesจะเป็นการเสียดสีของหนังสายลับ แต่ก็ยังสอดคล้องกับแนวความคิดและความคิดเดิมๆ หลายอย่าง ซึ่งหมายความว่าภาพยนตร์ของ Pearson ยังคงเต็มไปด้วยแอ็กชัน รวมถึงฉากต่อสู้ในห้องน้ำที่ยอดเยี่ยมซึ่งอยู่บน มีฉากมากพอที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับแฟนหนังแอคชั่น อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เพื่ออารมณ์ขันอาจเป็นคู่แข่งกับฟิล์มถั่วเหลืองที่จริงจัง แต่หนังของเพียร์สันกลับมีเสียงหัวเราะ ซึ่งทำให้เรื่องนี้สนุกมาก แต่มันก็มีความโรแมนติกเป็นแกนหลักเช่นกัน – ความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนระหว่างแบรดและเวโรนิกานั้นช่างอ่อนหวานและอบอุ่นในทันที และมีอารมณ์ทางเพศและประหลาดเล็กน้อย! ใช่ แม้แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เล่นเพื่อเสียงหัวเราะ โดยรวมเรื่องนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน!

👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ ติดตามข่าวต่างประเทศทั่วโลก

Comments

Popular posts from this blog

Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล

 เรียกได้ว่าเป็นหนังเอนิเมชั่นที่สมจริงอีกเรื่องเลยก็ว่าได้ ในเรื่อง Alita: Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล ได้ผู้กำกับอย่าง โรเบิร์ต รอดริเกซ ที่ขนนักแสดงนำอย่าง โรซา ซาลาซาร์ ,คีแอน จอห์นสัน ,คริสตอฟ วอลท์ซ ,เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ,เอ็ด สไครน์ ,อีซา กอนซาเลซ และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้น ซึ่งไซบอร์กและหุ่นยนตร์กลายเป็นเรื่องปกติ เมืองลอยฟ้าทิฟาเรส เก็บงำความลับอันดำมืด มันทิ้งขยะไร้ค่าลงสู่โล่งเบื้องล่าง และที่ลานทิ้งขยะนั้นเองค่ะ Alita: Battle Angel เ รื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 หรือ 300 ปีให้หลังจากสงครามอวกาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ในอนาคตอันไกลโพ้น จะมีไซบอร์กและหุ่นยนตร์ดำเนินชีวิตประจำวันให้เห็นโดยเป็นเรื่องปกติ และมีเมืองลอยฟ้าที่เก็บงำความลับอันดำมืดไว้ และตลอดระยะเวลาจะมีการทิ้งขยะที่ไร้ค่าลงสู่พื้นโล่งเบื้องล่างทับถมกันจนกลายเป็นลานขยะ ณ ที่ลานทิ้งขยะนั้นเอง ศัลยแพทย์ดร.ไดสัน อิโดะได้เดินทางไปที่ลานขยะก็ได้พบกับไซบอร์กสาวที่สมองยังคงทำงานอยู่ไม่เสียหาย จึงได้เก็บเธอมาแล้วช่วยซ่อมร่างของเธอให้ หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาเธอไม่สามาร...

รีวิว Cowboy Bebop (Live-Action) ที่ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานปลายยุค 90s

Cowboy Bebop Netflix ดัดแปลงจากอนิเมะขึ้นหิ้งในตำนานในปลายยุค 90s เป็นการยำรวมระหว่าง หนังคาวบอย กังฟูสไตล์บรู๊ซลี ยานอวกาศ เพลงแจ้ส คอบรา ผสมผสานบรรยากาศของหนังให้อารมณ์ทำภารกิจเป็นตอนๆบวกการไล่ล่าแบบหนังตำรวจและหนังมาเฟียเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยเพลงแจ๊สคลอประกอบไปตลอดเรื่อง  เรื่องราวของเหล่า “คาวบอยอวกาศ” หรือ นักล่าค่าหัวในโลกยุคอนาคตที่การเดินทางระหว่างดวงดาวเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สังคมก็ยังเต็มไปด้วยอาชญากรรมมากมายที่หน่วยงานและตำรวจไม่สามารถปราบได้ จึงทำให้มีอาชีพนักล่าค่าหัวเพื่อตามจับเหล่าอาชญากรระหว่างดวงดาวเกิดขึ้น ซึ่งสมาชิกของยาน “Bebop” ที่ประกอบด้วย สไปค์ สปีเกล และ เจ็ต แบล็ก ในฐานะคาวบอยอวกาศชื่อดังก็ต้องรับภารกิจล่าค่าหัวตามจับเหล่าอาชญากร ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เจอกับ เฟย์ วาเลนไทน์ หญิงนักล่าค่าหัวปริศนาที่เข้ามาร่วมกลุ่ม ตามด้วย เอ็ด แฮกเกอร์หญิงอัจฉริยะ ซึ่งการรวมตัวกันของพวกเขาจะทำให้ทีมคาวบอยบีบ็อบออกป่วนไปทั่วระบบสุริยะ  เรื่องราวอีกด้านหนึ่งยังโฟกัสไปที่อดีตของสไปค์ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนเขาเป็นระยะ ในฐานะอดีตนักฆ่าแถวหน้าขององค์กรอาชญากรรม “เรดดรากอน” แ...

รีวิว The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก

The Spy Who Dumped Me 2 สปายสวมรอยข้ามโลก  เป็นเรื่อง2คู่ซี้สาวออเดรย์ (มิล่า คูนิส) และ มอร์แกน (เคท แมคคินนอน) สองสาวขโมยทัมบ์ไดรฟ์ที่บรรจุความลับสุดยอดที่ได้มาจากศพของมือสังหาร และโดนตามล่าโดนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด  และกระชากโฉมหน้าองค์กรลับแห่งนี้  และบทสรุป ที่คาดไม่ถึง เรื่องราวหลัง ดรูว์ (จัสติน เธอโร) กิ๊กเก่ามาโดนยิงต่อหน้าต่อตา พร้อมฝากฝังภารกิจสุดห้าว จน ออดรีย์(มิลา คูนิส) สาวช้ำรักพร้อม มอร์แกน(เคต แมคคินนอน) เพื่อนซี้ที่ปากแทบไม่เคยหุบ ต้องกระเตงกันไปไกลถึงยุโรป เพื่อส่งมอบแฟลชไดร์ฟที่บรรจุข้อมูลลับให้ถึงมือที่ปลอดภัยก่อนจะเกิดหายนะโลก แล้วชีวิตสองสาววัย 30 ก็ต้องหนีการตามล่าทั้ง เซบาสเตียน (แซม โฮแกน) สายลับอังกฤษสุดหล่อที่ต้องทนร่วมงานกับ ดัฟเฟอร์ (ฮาซาน มินฮาจ)คู่หูที่เอาแต่อวดฉลาด นาจยา (อีวานนา ซาคาห์โน)นักฆ่าสาวหุ่นนางแบบจากองค์กรก่อการร้าย ที่จะทำให้การเปิดซิงทริปยุโรปของ ออดรีย์ กับ มอร์แกน เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว โดยรวมเปิดเรื่องมาอย่างกับก็อปฉากจากหนังแอ็คชั่นอย่าง เจสัน บอร์น แล้ว หน...